คู่กัดปมฉาวแย่งแฟน จวกยับ‘อดีตโฆษกตร.’ ทําเอานักข่าวอลหม่าน ในคลินิกดังย่านสาทร
หมอแอร์นัดสื่อแถลงข่าวกรณีขายหุ้นคลินิกเสริมความงาม เนื่องจากมีคนตามรังควานเกรงจะทำให้ หุ้นส่วนเสียหาย หลังแถลงเสร็จ สื่อมวลชนถึงกับตะลึง จู่ๆ “ไฮโซตั๋ม” คู่กรณีที่มีคดีความเนื่องจากแย่งแฟนกันอยู่ โผล่มาจากไหนไม่รู้ให้สัมภาษณ์ด่ากราดต่อหน้าว่าถูกอีกฝ่ายแย่งแฟน และที่เปิดแถลงข่าวเพราะอยากดังต้องการโปรโมตคลินิก จากนั้นกลับออกไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ท่ามกลางความโล่งอกของบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
ตามรังควาน
ตะลึง 愕然
คู่กรณี 訴訟當事人
มีคดีความ 有案在身
โผล่(ตัว, หน้า) 現身
กรณี น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม อายุ 34 ปี รองประธานกรรมการบริษัทไดเรค ชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลล็อบเมนท์ จำกัด หรือดีเอดี ยนตรกิจ โพสต์เฟซบุ๊ก Tum Leenutaphong กล่าวหา พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ อายุ 37 ปี แพทย์ประจำ รพ.ตำรวจ และอดีตโฆษก ตร. แย่งแฟน พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล หรือรองอั๋น รอง ผกก.สืบสวนและตรวจราชการ 1 จต.2 พร้อมกับมีการโพสต์ข้อความต่อว่ากันหลายครั้ง จนหมอแอร์ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และบทสัมภาษณ์ลงหนังสือพิมพ์ ทำให้หมอแอร์เสื่อมเสียชื่อเสียง นำข้อความที่ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่คลินิกเสริมความงาม ดิแอร์คลินิก เลขที่ 1 ชั้น 2 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.แล้ว ตนได้ปรึกษากับครอบครัวอยู่ตลอดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ระยะหลังทางคู่กรณีของตนคงยังโพสต์ข้อความดูหมิ่นใส่ร้ายบ่อยครั้ง อีกทั้งมีการโทรศัพท์เข้ามายังคลินิกเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ และมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปตนและรูปคลินิก รวมถึงให้ร้ายแก่คลินิกในส่วนของการบริการ เกิดความไม่ปลอดภัยในตนเองและคลินิก วันนี้จึงตัดสินใจถอนหุ้นทั้งหมด 95 เปอร์เซ็นต์ ที่ลงไว้กับคลินิก เพื่อ ไม่ให้คลินิกเกิดความเสียหายจากเรื่องราวของตนที่เกิดขึ้น
พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลีกล่าวด้วยว่า ในส่วนของข้อความที่โพสต์ต่อว่าในเฟซบุ๊ก ตนจะรวบรวมหลักฐานเพื่อนำเข้าไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.เพิ่มเติม วันนี้ (15 มี.ค.) ตนจะทำงานที่คลินิก “ดิแอร์คลินิก” เป็นวันสุดท้าย เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว สำหรับความคืบหน้าคดีของตนกับคู่กรณี ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย
ระหว่างหมอแอร์แถลงข่าวก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ผู้สื่อข่าวที่อยู่ที่ดิแอร์คลินิกถึงกับอลหม่าน เมื่อ น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม คู่กรณีโผล่ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน ทำให้หมอแอร์ถึงกับถอยฉากไปยืนด้านข้าง แต่ท่าทางยังสงบนิ่ง ไฮโซตั๋มหันไปมองหน้าหมอแอร์แล้วหันกลับมาด่ากราดผ่านผู้สื่อข่าวว่า ตนกับฝ่ายชายหมั้นกันตามที่เป็นข่าวจริง ไม่ได้มโนไปเองเหมือนอย่างที่กล่าวหา พ่อแม่ของฝ่ายชายก็รับรู้ ตนไม่ได้มโน ส่วนกรณีโพสต์ข้อความต่างๆผ่านเฟซบุ๊ก ตนยอมรับว่าเป็นคนโพสต์เองเพราะเรื่องทั้งหมดคือเรื่องจริง ตนไม่กลัว ถ้ากลัวคงไม่โพสต์ ส่วนตัวตนคิดว่าแย่งแฟนคนอื่นแล้วยังมีหน้าไปแจ้งความ หน้าหนารึเปล่า ถ้าตัวเองโดนบ้างคงรู้สึก แล้วนี่ไม่ยอมรับ แต่แฟนคลับเอาภาพมาโพสต์เรื่อยๆว่า ไปเที่ยวกับฝ่ายชายจริง คือมีภาพเยอะมาก
ไฮโซตั๋มกล่าวต่อไปว่า ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว ศัตรูเค้าเยอะมาก เพราะที่โพสต์มาไม่เคยเอ่ยชื่อใคร ถ้าจะเดือดร้อนก็... ถ้าใครจะรับว่าตัวเองเหี่ยวก็เชิญ ถ้าอันไหนที่เป็นเฟซบุ๊กของตน ยอมรับว่าโพสต์เองทั้งหมด แต่อันไหนที่ไม่ใช่เฟซบุ๊กตนก็ไม่ใช่ คนอย่างตนไม่มีทางตั้งเฟซบุ๊กเพื่อด่าคน จะด่าก็ด่าต่อหน้า รู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะมีการแถลงข่าว แล้วคิดว่าครั้งที่แล้วที่แจ้งความไปก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เค้ารับแจ้งความรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วที่ไปแจ้งความคราวที่แล้วก็ไม่ได้ฟ้อง น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ แต่ฟ้องใครไม่รู้ที่ชื่อตั๋ม น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ ในเฟซบุ๊ก ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไร มั่นใจว่าถ้าไม่ชนะไม่ออกมาทำอะไรแบบนี้ เพราะฝ่ายหญิงต้องการอยากดังมากกว่า เพราะเรียกสื่อมวลชนมาทำข่าวที่คลินิก ก็รู้ๆกันอยู่ว่าทำเพื่อโปรโมตคลินิก เพราะตนก็ทำการตลาดที่บริษัทเช่นเดียวกัน
“ถ้ามีอะไรก็พูดกันต่อหน้า อย่ามาแอบจิกกัดกันลับหลัง รับไม่ได้ค่ะ ที่โพสต์ว่าอย่ามโนไปเอง ผู้ชายเค้ารับรู้ แม่เค้าก็รับรู้ค่ะ มีอะไรก็พูดต่อหน้าไม่ต้องแอ๊บแบ๊วแบบนี้ เพราะคนเค้าดูออกคือ พยายามจะเป็นข่าวตลอดเวลาตั๋มรับไม่ได้ เพราะครั้งที่แล้วก็แย่งแฟนไปแล้วยังจะแจ้งความอีก เป็นคุณคุณรับได้ไหม ตั๋มมีหลักฐานเยอะมาก ที่โพสต์คือ มีหลักฐาน วันนี้ต้องการออกมาฟัง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ไม่ได้อยากดัง ไม่คิดที่จะแจ้งนักข่าว รายการทีวีก็ติดต่อมาให้ไปออกรายการแต่ก็ไม่คิดอยากดัง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เลิกกับแฟนมีคนแย่งแฟนแล้วไปแจ้งความ คือเราโกรธอยู่แล้ว ถ้าแย่งไปแล้วเงียบเรื่องมันก็จบ ส่วนตัวแล้วไม่ได้พูดคุยหรือเจอกับฝ่ายชายเลย เพราะหลังจากที่ไม่ยอมให้เงินฝ่ายชายก็หายไปเลย” ไฮโซตั๋มกล่าว หลังจากนั้นก็เดินออกจากดิแอร์คลินิก ท่ามกลางความโล่งอกของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะเกรงว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
沒有留言:
張貼留言