คู่กัดปมฉาวแย่งแฟน จวกยับ‘อดีตโฆษกตร.’ ทําเอานักข่าวอลหม่าน ในคลินิกดังย่านสาทร
หมอแอร์นัดสื่อแถลงข่าวกรณีขายหุ้นคลินิกเสริมความงาม เนื่องจากมีคนตามรังควานเกรงจะทำให้ หุ้นส่วนเสียหาย หลังแถลงเสร็จ สื่อมวลชนถึงกับตะลึง จู่ๆ “ไฮโซตั๋ม” คู่กรณีที่มีคดีความเนื่องจากแย่งแฟนกันอยู่ โผล่มาจากไหนไม่รู้ให้สัมภาษณ์ด่ากราดต่อหน้าว่าถูกอีกฝ่ายแย่งแฟน และที่เปิดแถลงข่าวเพราะอยากดังต้องการโปรโมตคลินิก จากนั้นกลับออกไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ท่ามกลางความโล่งอกของบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
ตามรังควาน
ตะลึง 愕然
คู่กรณี 訴訟當事人
มีคดีความ 有案在身
โผล่(ตัว, หน้า) 現身
กรณี น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม อายุ 34 ปี รองประธานกรรมการบริษัทไดเรค ชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลล็อบเมนท์ จำกัด หรือดีเอดี ยนตรกิจ โพสต์เฟซบุ๊ก Tum Leenutaphong กล่าวหา พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ อายุ 37 ปี แพทย์ประจำ รพ.ตำรวจ และอดีตโฆษก ตร. แย่งแฟน พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล หรือรองอั๋น รอง ผกก.สืบสวนและตรวจราชการ 1 จต.2 พร้อมกับมีการโพสต์ข้อความต่อว่ากันหลายครั้ง จนหมอแอร์ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และบทสัมภาษณ์ลงหนังสือพิมพ์ ทำให้หมอแอร์เสื่อมเสียชื่อเสียง นำข้อความที่ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่คลินิกเสริมความงาม ดิแอร์คลินิก เลขที่ 1 ชั้น 2 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.แล้ว ตนได้ปรึกษากับครอบครัวอยู่ตลอดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ระยะหลังทางคู่กรณีของตนคงยังโพสต์ข้อความดูหมิ่นใส่ร้ายบ่อยครั้ง อีกทั้งมีการโทรศัพท์เข้ามายังคลินิกเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ และมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปตนและรูปคลินิก รวมถึงให้ร้ายแก่คลินิกในส่วนของการบริการ เกิดความไม่ปลอดภัยในตนเองและคลินิก วันนี้จึงตัดสินใจถอนหุ้นทั้งหมด 95 เปอร์เซ็นต์ ที่ลงไว้กับคลินิก เพื่อ ไม่ให้คลินิกเกิดความเสียหายจากเรื่องราวของตนที่เกิดขึ้น
พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลีกล่าวด้วยว่า ในส่วนของข้อความที่โพสต์ต่อว่าในเฟซบุ๊ก ตนจะรวบรวมหลักฐานเพื่อนำเข้าไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.เพิ่มเติม วันนี้ (15 มี.ค.) ตนจะทำงานที่คลินิก “ดิแอร์คลินิก” เป็นวันสุดท้าย เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว สำหรับความคืบหน้าคดีของตนกับคู่กรณี ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย
ระหว่างหมอแอร์แถลงข่าวก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ผู้สื่อข่าวที่อยู่ที่ดิแอร์คลินิกถึงกับอลหม่าน เมื่อ น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม คู่กรณีโผล่ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน ทำให้หมอแอร์ถึงกับถอยฉากไปยืนด้านข้าง แต่ท่าทางยังสงบนิ่ง ไฮโซตั๋มหันไปมองหน้าหมอแอร์แล้วหันกลับมาด่ากราดผ่านผู้สื่อข่าวว่า ตนกับฝ่ายชายหมั้นกันตามที่เป็นข่าวจริง ไม่ได้มโนไปเองเหมือนอย่างที่กล่าวหา พ่อแม่ของฝ่ายชายก็รับรู้ ตนไม่ได้มโน ส่วนกรณีโพสต์ข้อความต่างๆผ่านเฟซบุ๊ก ตนยอมรับว่าเป็นคนโพสต์เองเพราะเรื่องทั้งหมดคือเรื่องจริง ตนไม่กลัว ถ้ากลัวคงไม่โพสต์ ส่วนตัวตนคิดว่าแย่งแฟนคนอื่นแล้วยังมีหน้าไปแจ้งความ หน้าหนารึเปล่า ถ้าตัวเองโดนบ้างคงรู้สึก แล้วนี่ไม่ยอมรับ แต่แฟนคลับเอาภาพมาโพสต์เรื่อยๆว่า ไปเที่ยวกับฝ่ายชายจริง คือมีภาพเยอะมาก
ไฮโซตั๋มกล่าวต่อไปว่า ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว ศัตรูเค้าเยอะมาก เพราะที่โพสต์มาไม่เคยเอ่ยชื่อใคร ถ้าจะเดือดร้อนก็... ถ้าใครจะรับว่าตัวเองเหี่ยวก็เชิญ ถ้าอันไหนที่เป็นเฟซบุ๊กของตน ยอมรับว่าโพสต์เองทั้งหมด แต่อันไหนที่ไม่ใช่เฟซบุ๊กตนก็ไม่ใช่ คนอย่างตนไม่มีทางตั้งเฟซบุ๊กเพื่อด่าคน จะด่าก็ด่าต่อหน้า รู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะมีการแถลงข่าว แล้วคิดว่าครั้งที่แล้วที่แจ้งความไปก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เค้ารับแจ้งความรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วที่ไปแจ้งความคราวที่แล้วก็ไม่ได้ฟ้อง น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ แต่ฟ้องใครไม่รู้ที่ชื่อตั๋ม น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ ในเฟซบุ๊ก ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไร มั่นใจว่าถ้าไม่ชนะไม่ออกมาทำอะไรแบบนี้ เพราะฝ่ายหญิงต้องการอยากดังมากกว่า เพราะเรียกสื่อมวลชนมาทำข่าวที่คลินิก ก็รู้ๆกันอยู่ว่าทำเพื่อโปรโมตคลินิก เพราะตนก็ทำการตลาดที่บริษัทเช่นเดียวกัน
“ถ้ามีอะไรก็พูดกันต่อหน้า อย่ามาแอบจิกกัดกันลับหลัง รับไม่ได้ค่ะ ที่โพสต์ว่าอย่ามโนไปเอง ผู้ชายเค้ารับรู้ แม่เค้าก็รับรู้ค่ะ มีอะไรก็พูดต่อหน้าไม่ต้องแอ๊บแบ๊วแบบนี้ เพราะคนเค้าดูออกคือ พยายามจะเป็นข่าวตลอดเวลาตั๋มรับไม่ได้ เพราะครั้งที่แล้วก็แย่งแฟนไปแล้วยังจะแจ้งความอีก เป็นคุณคุณรับได้ไหม ตั๋มมีหลักฐานเยอะมาก ที่โพสต์คือ มีหลักฐาน วันนี้ต้องการออกมาฟัง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว ไม่ได้อยากดัง ไม่คิดที่จะแจ้งนักข่าว รายการทีวีก็ติดต่อมาให้ไปออกรายการแต่ก็ไม่คิดอยากดัง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เลิกกับแฟนมีคนแย่งแฟนแล้วไปแจ้งความ คือเราโกรธอยู่แล้ว ถ้าแย่งไปแล้วเงียบเรื่องมันก็จบ ส่วนตัวแล้วไม่ได้พูดคุยหรือเจอกับฝ่ายชายเลย เพราะหลังจากที่ไม่ยอมให้เงินฝ่ายชายก็หายไปเลย” ไฮโซตั๋มกล่าว หลังจากนั้นก็เดินออกจากดิแอร์คลินิก ท่ามกลางความโล่งอกของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะเกรงว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
2015年3月16日 星期一
[ 新聞專欄 ] สอนมวย?
เป็นไปตามสไตล์ผู้นำทหาร โผงผางเด็ดขาด แถมมีอำนาจพิเศษ ออกคำสั่งได้ฉับไวตามใจนึก
โผงผาง 直截了當,直率
ก็อย่างที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์คิวกระทืบเบรก สั่งชะลอการเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของกระทรวงการคลัง จนหัวคะมำ
กระทรวงการคลัง 財政部
เพราะขืนปล่อยให้ละเลงกันต่อ รัฐบาล คสช.อาจรับแรงต้านไม่อยู่
เนื่องจากเรื่องนี้เหมือนเอาเข็มไปทิ่มแทงใจประชาชน คนชั้นกลาง ลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือนทั่วประเทศ
ละเลง 敷,塗抹
เหตุเพราะ “มิสเตอร์ภาษี” นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดปฏิบัติการโยนหินถามทางหยั่งกระแสสังคมโดยมุ่งไปที่การเก็บภาษีบ้านซุก หัวนอนเป็นหลัก
ทั้งที่ความจริงหากจะใช้ภาษีที่ดินเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน อย่างที่ฉายหนังโฆษณาไว้
หรือหวังผลแบบทูอินวัน เก็บภาษีที่ดินมาจุนเจือท้องถิ่น และเพิ่มรายได้รัฐนำไปลงทุนเมกะโปรเจกต์ต่างๆ
จุนเจือ 幫助,援助,救濟
ก็ควรเน้นเป้าไปที่การเก็บภาษีผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก บรรดาอภิมหาเศรษฐีแลนด์ลอร์ดทั้งหลาย
แต่ “มิสเตอร์ภาษี” กลับไม่ทำ หนำซ้ำยังมาจ้องรีดภาษีบ้านที่ซุกหัวนอนของผู้มีรายได้ปานกลาง
แรงต้านจึงกระหึ่ม จนการออกกฎหมายภาษีที่ดินต้องสะดุดไปแบบน่าเสียดาย!!!
จนมีเสียงนินทากันว่าเป็นเกมวางยา ยืมมือชาวบ้าน มาล้มกฎหมายภาษีที่ดิน เพื่อช่วยอภิมหาเศรษฐี
งานนี้ถ้าไม่เชื่อ “นายกฯลุงตู่” ลองใช้สไตล์เด็ดขาดอีกครั้ง สั่งให้กระทรวงการคลังพุ่งเป้าตีปี๊บเรื่องเก็บภาษีที่ดินจากอภิมหาเศรษฐี แลนด์ลอร์ดเป็นหลัก แทนการโฟกัสเก็บภาษีรังหนู ดูซิชาวบ้านจะต้านซักแอะมั้ยล่ะ???
อืม...เมื่อพูดถึงสไตล์ของ “นายกฯลุงตู่” แล้ว ต้องยอมรับเลยว่าตรงไปตรงมา พูดจาโผงผาง ได้ใจขาโจ๋จริงๆ
อย่างวันก่อน ไปปาฐกถาบนเวทีประชุม “วอร์ตัน โกบอล ฟอรัม” ครั้งที่ 47 หัวข้อ “เอเชียในยุคที่โลกไร้พรมแดน” จัดโดย ก.ล.ต. และเดอะวอร์ตัน สคูล มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
มีผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนในภูมิภาค นักธุรกิจ นักวิชาการชั้นนำทั่วโลก เข้าฟังแน่นตรึม
“นายกฯลุงตู่” เดี่ยวไมโครโฟน ยืนยันไทยไม่ได้ปิดประเทศ ไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่มีหลายประเทศที่ไม่เข้าใจ
แถมซัดตรงๆ ขอให้ไปบอกสหรัฐอเมริกาให้เข้าใจ การตัดเสื้อตัวเดียวแล้วให้คนทั้งโลกใส่มันไม่ได้ ต้องมีหลายขนาด เพราะแต่ละประเทศมีปัญหาแตกต่างกัน
แต่หากได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ทุกประเทศจะได้รับความเท่าเทียม ร่วมมือกันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ทุกวันนี้ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ไปเดินตลาดได้ทั้งหมด
แม้สหรัฐฯจะไม่ให้ตนเองไป แต่ก็เปิดให้เขาเข้ามา เพราะมีความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 200 ปี
งานนี้ ถึงจะพูดตรงโดนใจ แต่อเมริกาเจ้าลัทธิประชาธิปไตยจ๋า เขาคงไม่สนหร็อก!!!
โผงผาง 直截了當,直率
ก็อย่างที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์คิวกระทืบเบรก สั่งชะลอการเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของกระทรวงการคลัง จนหัวคะมำ
กระทรวงการคลัง 財政部
เพราะขืนปล่อยให้ละเลงกันต่อ รัฐบาล คสช.อาจรับแรงต้านไม่อยู่
เนื่องจากเรื่องนี้เหมือนเอาเข็มไปทิ่มแทงใจประชาชน คนชั้นกลาง ลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือนทั่วประเทศ
ละเลง 敷,塗抹
เหตุเพราะ “มิสเตอร์ภาษี” นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดปฏิบัติการโยนหินถามทางหยั่งกระแสสังคมโดยมุ่งไปที่การเก็บภาษีบ้านซุก หัวนอนเป็นหลัก
ทั้งที่ความจริงหากจะใช้ภาษีที่ดินเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน อย่างที่ฉายหนังโฆษณาไว้
หรือหวังผลแบบทูอินวัน เก็บภาษีที่ดินมาจุนเจือท้องถิ่น และเพิ่มรายได้รัฐนำไปลงทุนเมกะโปรเจกต์ต่างๆ
จุนเจือ 幫助,援助,救濟
ก็ควรเน้นเป้าไปที่การเก็บภาษีผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก บรรดาอภิมหาเศรษฐีแลนด์ลอร์ดทั้งหลาย
แต่ “มิสเตอร์ภาษี” กลับไม่ทำ หนำซ้ำยังมาจ้องรีดภาษีบ้านที่ซุกหัวนอนของผู้มีรายได้ปานกลาง
แรงต้านจึงกระหึ่ม จนการออกกฎหมายภาษีที่ดินต้องสะดุดไปแบบน่าเสียดาย!!!
จนมีเสียงนินทากันว่าเป็นเกมวางยา ยืมมือชาวบ้าน มาล้มกฎหมายภาษีที่ดิน เพื่อช่วยอภิมหาเศรษฐี
งานนี้ถ้าไม่เชื่อ “นายกฯลุงตู่” ลองใช้สไตล์เด็ดขาดอีกครั้ง สั่งให้กระทรวงการคลังพุ่งเป้าตีปี๊บเรื่องเก็บภาษีที่ดินจากอภิมหาเศรษฐี แลนด์ลอร์ดเป็นหลัก แทนการโฟกัสเก็บภาษีรังหนู ดูซิชาวบ้านจะต้านซักแอะมั้ยล่ะ???
อืม...เมื่อพูดถึงสไตล์ของ “นายกฯลุงตู่” แล้ว ต้องยอมรับเลยว่าตรงไปตรงมา พูดจาโผงผาง ได้ใจขาโจ๋จริงๆ
อย่างวันก่อน ไปปาฐกถาบนเวทีประชุม “วอร์ตัน โกบอล ฟอรัม” ครั้งที่ 47 หัวข้อ “เอเชียในยุคที่โลกไร้พรมแดน” จัดโดย ก.ล.ต. และเดอะวอร์ตัน สคูล มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
มีผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนในภูมิภาค นักธุรกิจ นักวิชาการชั้นนำทั่วโลก เข้าฟังแน่นตรึม
“นายกฯลุงตู่” เดี่ยวไมโครโฟน ยืนยันไทยไม่ได้ปิดประเทศ ไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่มีหลายประเทศที่ไม่เข้าใจ
แถมซัดตรงๆ ขอให้ไปบอกสหรัฐอเมริกาให้เข้าใจ การตัดเสื้อตัวเดียวแล้วให้คนทั้งโลกใส่มันไม่ได้ ต้องมีหลายขนาด เพราะแต่ละประเทศมีปัญหาแตกต่างกัน
แต่หากได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ทุกประเทศจะได้รับความเท่าเทียม ร่วมมือกันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ทุกวันนี้ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ไปเดินตลาดได้ทั้งหมด
แม้สหรัฐฯจะไม่ให้ตนเองไป แต่ก็เปิดให้เขาเข้ามา เพราะมีความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 200 ปี
งานนี้ ถึงจะพูดตรงโดนใจ แต่อเมริกาเจ้าลัทธิประชาธิปไตยจ๋า เขาคงไม่สนหร็อก!!!
2015年3月12日 星期四
สังคมออนไลน์แห่ชมคลิป "หนุ่มเกาหลีไม่ยอมจ่ายค่าวิน-แถมจะต่อยวิน" โดยเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ถ่ายคลิประบุว่า หนุ่มเกาหลีคนดังกล่าวไม่ยอมจ่ายค่าโดยสาร และยังจะทำร้ายร่างกายหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ สุดท้ายโดนสวนกลับสลบ
คุณจงรัก เที่ยงมาก พนักงานร้านบาร์แอน ย่านพัทยาสาย 2 ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปในที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า หนุ่มเกาหลีรายนี้ได้มาใช้บริการที่ร้าน เวลาประมาณ 22.00 น. ก่อนจะมีอาการมึนเมา และชักดาบค่ากินดื่มในร้านจำนวน 1,500 บาท จากนั้นได้หายตัวไปในช่วงเวลา 23.00 น. ก่อนกลับมาหน้าร้านพร้อมกับหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากชักดาบค่าโดยสารจำนวน 200 บาท จนเกิดการกระทบกระทั่ง ชกต่อยกัน สุดท้ายหนุ่มเกาหลีโดนชกสลบไปนานกว่า 3 นาที พบว่าฟันหัก 1 ซี่ และมีเลือดกำเดาไหล พนักงานร้านจึงช่วยกันนำน้ำแข็งมาประคบให้ และช่วยกันนำไปส่งโรงแรม รวมถึงได้แจ้งไปยังโรงแรมด้วยว่า ชายหนุ่มเกาหลีคนนี้ ค้างค่าใช้จ่ายกับทางร้าน 1,500 บาท
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คุณจงรัก แจ้งว่าหนุ่มเกาหลีคนดังกล่าวได้กลับมาชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดจากความมึนเมา ซึ่งทางร้านไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด
ส่วนกรณีสาวดึงขาตั้งมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในคลิป เกิดจากรถล้ม หลังจากหนุ่มเกาหลีและวินมอเตอร์ไซค์ผลักกันไปผลักกันมา ขาตั้งจึงตกลงไปในท่อระบายน้ำ โดยรถมอเตอร์ไซค์คนดังกล่าวเป็นของพนักงานในร้าน กว่าจะยกรถขึ้นมาได้ก็ลำบากทุลักทุเลมาก และใช้เวลาไปกว่า 10 นาที ซึ่งช่วงรถล้มนั้น ไม่สามารถถ่ายคลิปวิดีโอได้ทัน คุณจงรักกล่าวทิ้งท้าย
2015年3月10日 星期二
อมตะ
CH2
แต่คลื่นแห่งความเจ็บปวดยังคงโหมกระแทกกระทั้นอยู่ในอกเช่นเดิม
บางตาลง = น้อยลง
ควัก
เซ เซซัง 蹣跚 搖晃
เสียงคลื่นถาโถมเข้าปะทะกับโขดหินดังโครมครืน
CH3
สว่างไสว 明亮
มุมมืด 黑暗的角落
ผู้คนสัญจรไปมาขวักไขว่
มหรสพ(มะ หอน ระ สบ) 娛樂
เสียงระฆังไฟฟ้าก็กังวานขึ้น (ก้องอยู๋ได้นาน)
เหลือบดู
ถือสา
แค่นยิ้ม 勉強地笑 假笑
แกะกะระราน แกะกะเกเร 來亂;搗蛋;鬧事
ไตร่ตรอง Syn. ใคร่ครวญ, ตริตรอง, ตรอง 反覆思量
เย็นเฉียบ ว. เย็นจัด เช่น หน้าหนาวน้ำในลำธารเย็นเฉียบ
มีเพียงระลอกคลื่นน้อย ๆ ไล่กันเข้าหาหาดทราย
ตั้งรับ 抵擋 抵抗
อ่อนไหว 性格敏感
เลื่อนลอย
เธอเงียบไปอึดใจหนึ่งจึงพูดขึ้น
ธรรมดาสามัญ 世俗的;普通的
เขาสกัดกั้นความเจ็บปวดร้าวใจ
น้ำเสียงเขาเครือด้วยความน้อยเนื้อต้ำใจ
ถ้าพี่ไม่ยอมจำนน ใครทำอะไรพี่ไม่ได้
ขัดสน ว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน; ลําบาก.
เขาซาบซึ้งในน้ำใจเธอ
และแผ่กิ่งก้านสาขาไปได้อย่างรวดเร็วอย่างไร
เธอกอดแขนเขากระชับ
แสงก็ม้วหม่นลงไปอีก
เขาอยากให้หมอกหนาในใจสลายไปโดยเร็ว แสงแห่งปัญญาจะได้เจิดจ้าขึ้นบ้าง
CH4
นิ่วหน้า = ขมวดคิ้ว
น้ำพุ 噴泉
มีห้องน้ำหรูหราพร้อมสรรพ
เลขานุการิณี
เพราะถ้าขืนปล่อยให้ยืดยาวไปกว่านี้ก็จะมีปีญหามากขึ้น
หนีเตลิด เพ่นพ่าน
แต่คลื่นแห่งความเจ็บปวดยังคงโหมกระแทกกระทั้นอยู่ในอกเช่นเดิม
บางตาลง = น้อยลง
ควัก
เซ เซซัง 蹣跚 搖晃
เสียงคลื่นถาโถมเข้าปะทะกับโขดหินดังโครมครืน
CH3
สว่างไสว 明亮
มุมมืด 黑暗的角落
ผู้คนสัญจรไปมาขวักไขว่
มหรสพ(มะ หอน ระ สบ) 娛樂
เสียงระฆังไฟฟ้าก็กังวานขึ้น (ก้องอยู๋ได้นาน)
เหลือบดู
ถือสา
แค่นยิ้ม 勉強地笑 假笑
แกะกะระราน แกะกะเกเร 來亂;搗蛋;鬧事
- กระทบกระทั่งทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือแตกร้าวกัน, แกล้งทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
- ก. ประพฤติเป็นพาลเกเร ทำให้เดือดร้อน เช่น เขาเที่ยวระรานชาวบ้าน, มักใช้เข้าคู่กับคำ เกะกะ เป็น เกะกะระราน
- แกะกะนัยตา
ไตร่ตรอง Syn. ใคร่ครวญ, ตริตรอง, ตรอง 反覆思量
เย็นเฉียบ ว. เย็นจัด เช่น หน้าหนาวน้ำในลำธารเย็นเฉียบ
มีเพียงระลอกคลื่นน้อย ๆ ไล่กันเข้าหาหาดทราย
ตั้งรับ 抵擋 抵抗
- เดี๋ยวนี้อะไรมัยเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนตั้งรับไม่ทัน
อ่อนไหว 性格敏感
เลื่อนลอย
เธอเงียบไปอึดใจหนึ่งจึงพูดขึ้น
ธรรมดาสามัญ 世俗的;普通的
เขาสกัดกั้นความเจ็บปวดร้าวใจ
น้ำเสียงเขาเครือด้วยความน้อยเนื้อต้ำใจ
ถ้าพี่ไม่ยอมจำนน ใครทำอะไรพี่ไม่ได้
ขัดสน ว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน; ลําบาก.
เขาซาบซึ้งในน้ำใจเธอ
และแผ่กิ่งก้านสาขาไปได้อย่างรวดเร็วอย่างไร
เธอกอดแขนเขากระชับ
แสงก็ม้วหม่นลงไปอีก
เขาอยากให้หมอกหนาในใจสลายไปโดยเร็ว แสงแห่งปัญญาจะได้เจิดจ้าขึ้นบ้าง
CH4
นิ่วหน้า = ขมวดคิ้ว
น้ำพุ 噴泉
มีห้องน้ำหรูหราพร้อมสรรพ
เลขานุการิณี
เพราะถ้าขืนปล่อยให้ยืดยาวไปกว่านี้ก็จะมีปีญหามากขึ้น
หนีเตลิด เพ่นพ่าน
累壞/朝氣蓬勃
累壞
อ่อนเปลี้ย
อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
กะปลกกะเปลี้ย
กระป้อกระแป้
神采奕奕,朝氣蓬勃,精神飽滿,精神充沛
กระปรี้กระเปร่า
กระฉับกระเฉง
อ่อนเปลี้ย
อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
กะปลกกะเปลี้ย
กระป้อกระแป้
神采奕奕,朝氣蓬勃,精神飽滿,精神充沛
กระปรี้กระเปร่า
กระฉับกระเฉง
2015年3月9日 星期一
กระเสือกกระสน
กระเสือกกระสนทำมาหากิน
艱苦地謀生
ชาวชนบทหลายคนกระเสือกกระสนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ เพื่อหลีกหนีความทุกข์ยากในชนบท
為了逃脫在鄉下艱困的處境,許多鄉下人都奮力前來曼谷找工作。
艱苦地謀生
ชาวชนบทหลายคนกระเสือกกระสนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ เพื่อหลีกหนีความทุกข์ยากในชนบท
為了逃脫在鄉下艱困的處境,許多鄉下人都奮力前來曼谷找工作。
2015年3月7日 星期六
[ Pantip ] 關於Prayut總理的經濟政策
เรียนนายกครับ ถ้ามีทีม คสช หรือ ใครก็ตามอยู่ในทีม คสช รบกวนช่วยไปบอกเจ้านายท่านด้วยครับ ว่าเศรษกิจแย่แล้วครับ ชาวบ้านจะตายกันหมดแล้วเพราะทีมของท่านเล่นเพิ่มรายจ่ายให้ประชาชน แถมลดรายได้ชาวบ้าน จากเหตุผลที่กล่าวมา จากวันที่เข้ามาเราชื่นชมพวกท่าน แต่มาวันนี่พวกท่านทำให้พวกเราผิดหวัง
สิ่งที่พวกท่านทำมีดังนี่
1.
เพิ่มราคา NGV(Natural Gas for Vehicles) ให้ บริษัทหนึ่งโดยฟังแต่คนรอบข้างในกระทรวงพลังงาน โดยไม่ดูข้อเท็จจริงนโยบาย อดีตที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวชักชวนชาวบ้านมาใช้แก๊สที่เหลือจากการผลิต ที่อดีตต้องเผาทิ้ง พอชาวบ้านใช้กันเยอะขึ้น ก็ใช้วิธีการไม่ส่งแก๊ส เพือบีบให้ปรับราคา หลังจากปรับราคาจนชนเพดานแล้ว ก็ไม่ขยายปั้มเพื่อจะบังคับให้ขึ้นราคาอีก ทังที่มีคนอยากทำมากมายเพราะกำไรดีกิโลละ บาท แต่ไม่ให้เขาทำ ลองไปดูตามปั้มก็ได้ครับท่านจะได้ข้อเท็จจริง
ท่านรู้ไหม สิ่งที่ท่านให้เพิ่มมันกระทบเป็นลูกโซ่ รถเมล์ขอขึ้นราคาตามมา ท่านคิดกันเป็นบ้างไหม
2.
คิดแต่ขูดรีดภาษีจากประชาชนภาษีบุคคลธรรมดาไม่ได้ลดเลยครับแต่ทำให้ขั้นมันถี่ขึ้น แต่ในขณะเดียวกันไปลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20 % ท่านไปถามใครดูก้ได้บริษัทพวกนีมีการนำค่าใช้จ่ายต่างๆๆมากมายมาหักภาษี แถมยังหลบภาษีเป็นบัญชี 2 บัญชี 3 แทบจะไม่เหลือกำไรที่ต้องเสียภาษี แถมมีบริษัทในเครือมากมาย โยกกันไปมา เพื่อลดกำไรลง
3.
รัฐมนตรีคลัง วันๆๆ ไม่เคยคิดที่จะผลักดันนโยบายหรือใช้แบงค์รัฐให้เป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษกิจ ในหัวมีแต่ขูดรีดภาษี
4.
แบงค์ชาติของท่านวันๆ คิดแต่เศรษกิจเติบโต โดยไม่ได้ดูว่าชาวบ้านจะตายทั้งประเทศโดยไม่ยอมลดดอกเบี้ยนโยบาบ ลองดูจีนสิครับโตแค่ 7 % ลดจาก 10 % เขาก็ลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว โดยไม่ต้องให้เศรษกิจมันตายก่อน แต่พวกท่านทำให้มันตายแล้ว ยังเป็นคนแก่หัวดื้ออีก
5.
ภาษีที่อยู่อาศัยที่รัฐมนโท ของพวกท่านคิดขูดรีดชาวบ้าน ชาวบ้านจะตายอยู่แล้ว ทุกบ้านที่มีบ้านมูลค่าเกิน 1ล้าน ต้องเสียภาษีเอาเวลาว่าง หรือสมองขี้เลี้อยไปคิดทำให้เศรษกิจมันดีขึ้นดีกว่าครับ มันหมดเวลากับเรื่องพวกไร้สาระที่ท่านทำแล้วครับ
6.
คิดโครงการที่ให้เศรษกิจมันเกิดวงรอบของเงินดีกว่า เช่นโครงการลดดอกเบี้ยต่างๆๆ ที่ชาวบ้านเป้นอยู่มา refinance โดยยอมใช้เงินงบประมาณ เหมือนสมัยน้ำท่วม ที่ทำ ดอก 3% มาให้ชาวบ้านมีเงินเหลือ เพื่อมาจับจ่ายใช้สอย หนี้ที่ชาวบ้านมีก็เพราะนโยบายที่รัฐบาลที่ผ่านมาเช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก ก็จะมีรูหายใจบ้าง
7.
หัดไปดูดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้มีห่างเกือบ 6 บาทแล้ว ท่านไม่คิดจะดันให้แบงค์ลดเงินกู้ลงบ้างหรือ
8.
สุดท้ายพวกที่นั่งในทีมเศรษกิจ ทำให้เศรษกิจเดินไม่ได้ผมว่ากลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านดีกว่าอย่ามานั่งถ่างขาในเก้าอี้อยู่ ท่านคือผู้ร้ายของประชาชน
สิ่งที่พวกท่านทำมีดังนี่
คสช. = คณะรักษาความสงบแห่งชาติ 全國維持和平秩序委員會
เจ้านายท่าน:
เล่นเพิ่ม:
รายจ่าย:支出
1.
เพิ่มราคา NGV(Natural Gas for Vehicles) ให้ บริษัทหนึ่งโดยฟังแต่คนรอบข้างในกระทรวงพลังงาน โดยไม่ดูข้อเท็จจริงนโยบาย อดีตที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวชักชวนชาวบ้านมาใช้แก๊สที่เหลือจากการผลิต ที่อดีตต้องเผาทิ้ง พอชาวบ้านใช้กันเยอะขึ้น ก็ใช้วิธีการไม่ส่งแก๊ส เพือบีบให้ปรับราคา หลังจากปรับราคาจนชนเพดานแล้ว ก็ไม่ขยายปั้มเพื่อจะบังคับให้ขึ้นราคาอีก ทังที่มีคนอยากทำมากมายเพราะกำไรดีกิโลละ บาท แต่ไม่ให้เขาทำ ลองไปดูตามปั้มก็ได้ครับท่านจะได้ข้อเท็จจริง
ท่านรู้ไหม สิ่งที่ท่านให้เพิ่มมันกระทบเป็นลูกโซ่ รถเมล์ขอขึ้นราคาตามมา ท่านคิดกันเป็นบ้างไหม
2.
คิดแต่ขูดรีดภาษีจากประชาชนภาษีบุคคลธรรมดาไม่ได้ลดเลยครับแต่ทำให้ขั้นมันถี่ขึ้น แต่ในขณะเดียวกันไปลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20 % ท่านไปถามใครดูก้ได้บริษัทพวกนีมีการนำค่าใช้จ่ายต่างๆๆมากมายมาหักภาษี แถมยังหลบภาษีเป็นบัญชี 2 บัญชี 3 แทบจะไม่เหลือกำไรที่ต้องเสียภาษี แถมมีบริษัทในเครือมากมาย โยกกันไปมา เพื่อลดกำไรลง
3.
รัฐมนตรีคลัง วันๆๆ ไม่เคยคิดที่จะผลักดันนโยบายหรือใช้แบงค์รัฐให้เป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษกิจ ในหัวมีแต่ขูดรีดภาษี
4.
แบงค์ชาติของท่านวันๆ คิดแต่เศรษกิจเติบโต โดยไม่ได้ดูว่าชาวบ้านจะตายทั้งประเทศโดยไม่ยอมลดดอกเบี้ยนโยบาบ ลองดูจีนสิครับโตแค่ 7 % ลดจาก 10 % เขาก็ลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว โดยไม่ต้องให้เศรษกิจมันตายก่อน แต่พวกท่านทำให้มันตายแล้ว ยังเป็นคนแก่หัวดื้ออีก
5.
ภาษีที่อยู่อาศัยที่รัฐมนโท ของพวกท่านคิดขูดรีดชาวบ้าน ชาวบ้านจะตายอยู่แล้ว ทุกบ้านที่มีบ้านมูลค่าเกิน 1ล้าน ต้องเสียภาษีเอาเวลาว่าง หรือสมองขี้เลี้อยไปคิดทำให้เศรษกิจมันดีขึ้นดีกว่าครับ มันหมดเวลากับเรื่องพวกไร้สาระที่ท่านทำแล้วครับ
6.
คิดโครงการที่ให้เศรษกิจมันเกิดวงรอบของเงินดีกว่า เช่นโครงการลดดอกเบี้ยต่างๆๆ ที่ชาวบ้านเป้นอยู่มา refinance โดยยอมใช้เงินงบประมาณ เหมือนสมัยน้ำท่วม ที่ทำ ดอก 3% มาให้ชาวบ้านมีเงินเหลือ เพื่อมาจับจ่ายใช้สอย หนี้ที่ชาวบ้านมีก็เพราะนโยบายที่รัฐบาลที่ผ่านมาเช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก ก็จะมีรูหายใจบ้าง
7.
หัดไปดูดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้มีห่างเกือบ 6 บาทแล้ว ท่านไม่คิดจะดันให้แบงค์ลดเงินกู้ลงบ้างหรือ
8.
สุดท้ายพวกที่นั่งในทีมเศรษกิจ ทำให้เศรษกิจเดินไม่ได้ผมว่ากลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านดีกว่าอย่ามานั่งถ่างขาในเก้าอี้อยู่ ท่านคือผู้ร้ายของประชาชน
2015年3月6日 星期五
[ 新聞 ] รุมยิงดับ‘แท็ก บ่อผุด’ขาใหญ่สมุย นักฆ่ามาคู่ถล่มคาร้าน
มือปืนมาคู่2คน ใช้ปืนยิงถล่มดับ‘แท็ก บ่อผุด’นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเกาะสมุย ขณะนั่งในร้านอาหารกับพรรคพวก สิ้นใจระหว่างนำส่งรพ. เพื่อนที่นั่งด้วยบาดเจ็บ2คน ตร.ได้เค้าคนร้ายจากวงจรปิด ชี้เป็นมือพระกาฬ...
เมื่อเวลา19.40 น.วันที่ 6 มี.ค.58 พ.ต.ท.พงษ์ขจร สุกกสังข์ พงส.ผนพ.สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงนายพนัส เค้าอุทัย อายุ 49 ปี หรือฉายา ‘แท็ก บ่อผุด’ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีหุ้นส่วนร้านอาหารร่วมกับชาวต่างชาติ ที่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่เกาะสมุย เสียชีวิตขณะนั่งกินอาหารกับลูกน้องและเพื่อน ที่ร้านอาหาร คามา ตั้งอยู่ในซอยทางเข้าท่าเรือบ่อผุด ม.1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ สวป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรวิทยาการ พบปลอกขนาด.38 ซุปเปอร์จำนวน 5 ปลอก และหัวกระสุน3หัว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ถูกยิง3คน ถูกนำส่งรพ.บ้านดอนอินเตอร์ไปก่อนแล้ว ซึ่งนอกจากพนัส ผู้ตาย ยังมีผู้ที่นั่งร่วมวงอีก 2 คนถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บด้วย คือนายชัยกลม เครือภัคดี อายุ 36 ปี ถูกยิงบริเวณเบ้าตาซ้ายอาการสาหัส และนายสุนทร ชุมสาย อายุ 42 ปี ถูกยิงเข้าต้นแขนซ้ายบาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้าน และภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับร้านเกิดเหตุ พบว่า1ในคนร้ายได้เดินทางมาดูลาดเลา ก่อนลงมือก่อเหตุประมาณ 1ชั่วโมง โดยพบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นชาย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสีแดงขาว กางเกงยืนส์ อายุประมาณ 45 ปี ทำทีเดินดูสินค้าที่วางขาย
หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพ คนร้าย 2 คน เดินมาหน้าร้านที่ผู้ต ายนั่งอยู่ ก่อนที่ทั้ง2จะชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ตายที่นั่งในร้านจนล้มฟุบลงกับพื้น แล้วเข้าไปยิงซ้ำจนมั่นใจว่าเสียชีวิตก่อนจะพากันวิ่งหหนีไป ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก
จากการชันสูตรศพในเวลาต่อมา พบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ด้านหลังทั้ง6นัด ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดจนได้รูปพรรณของคนร้ายแล้ว ซึ่งชุดสืบสวนได้เร่งหาข้อมูลของคนร้ายเพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้มีคำสั่งในตำรวจทุกสภ.ในพื้นที่เกาะสมุย คุมเข้มบริเวณท่าเรือทุกจุดที่สามารถเดินทางออกจากเกาะได้ โดยเฉพาะท่าเรือสปีดโบ๊ต เพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีออกจากเกาะสมุยได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นมือปืนอาชีพระดับพระกาฬ และมีการวางแผนมาล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี โดยคนร้ายเลือกลงมือในช่วงที่มีการจัดขายสินค้าถนนคนเดิน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน สามารถเข้าถึงตัวผู้ตายได้ง่าย และเมื่อก่อเหตุแล้วก็ใช้วิธีหลบหนีแอบแฝงไปในกลุ่มคน
สำหรับผู้ตาย เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ เป็นที่รู้จักกันดี มีธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่หุ้นส่วนจะเป็นชาวต่างชาติ รวมทั้งคอยดูแลช่าวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเกาะสมุย ล่าสุดได้หันมาจับธุรกิจถนนคนเดิน โดยก่อนหน้านี้ได้ไปเปิดขายในที่ของเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนจะปิดตัวลงโดยไม่ทราบสาเหตุ และนิสัยส่วนตัวของผู้ตายก็เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาโผงผางตามสไตล์นักเลง จนอาจทำให้บางคนไม่พอใจ ซึ่งตำรวจรอสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะสรุปสาเหตุการสังหารขาใหญ่เกาะสมุยในครั้งนี้ต่อไป.
* * *
出處:http://www.thairath.co.th/content/485402
เมื่อเวลา19.40 น.วันที่ 6 มี.ค.58 พ.ต.ท.พงษ์ขจร สุกกสังข์ พงส.ผนพ.สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงนายพนัส เค้าอุทัย อายุ 49 ปี หรือฉายา ‘แท็ก บ่อผุด’ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีหุ้นส่วนร้านอาหารร่วมกับชาวต่างชาติ ที่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่เกาะสมุย เสียชีวิตขณะนั่งกินอาหารกับลูกน้องและเพื่อน ที่ร้านอาหาร คามา ตั้งอยู่ในซอยทางเข้าท่าเรือบ่อผุด ม.1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ สวป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรวิทยาการ พบปลอกขนาด.38 ซุปเปอร์จำนวน 5 ปลอก และหัวกระสุน3หัว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ถูกยิง3คน ถูกนำส่งรพ.บ้านดอนอินเตอร์ไปก่อนแล้ว ซึ่งนอกจากพนัส ผู้ตาย ยังมีผู้ที่นั่งร่วมวงอีก 2 คนถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บด้วย คือนายชัยกลม เครือภัคดี อายุ 36 ปี ถูกยิงบริเวณเบ้าตาซ้ายอาการสาหัส และนายสุนทร ชุมสาย อายุ 42 ปี ถูกยิงเข้าต้นแขนซ้ายบาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้าน และภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับร้านเกิดเหตุ พบว่า1ในคนร้ายได้เดินทางมาดูลาดเลา ก่อนลงมือก่อเหตุประมาณ 1ชั่วโมง โดยพบภาพผู้ต้องสงสัยเป็นชาย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสีแดงขาว กางเกงยืนส์ อายุประมาณ 45 ปี ทำทีเดินดูสินค้าที่วางขาย
หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพ คนร้าย 2 คน เดินมาหน้าร้านที่ผู้ต ายนั่งอยู่ ก่อนที่ทั้ง2จะชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้ตายที่นั่งในร้านจนล้มฟุบลงกับพื้น แล้วเข้าไปยิงซ้ำจนมั่นใจว่าเสียชีวิตก่อนจะพากันวิ่งหหนีไป ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก
จากการชันสูตรศพในเวลาต่อมา พบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ด้านหลังทั้ง6นัด ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดจนได้รูปพรรณของคนร้ายแล้ว ซึ่งชุดสืบสวนได้เร่งหาข้อมูลของคนร้ายเพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้มีคำสั่งในตำรวจทุกสภ.ในพื้นที่เกาะสมุย คุมเข้มบริเวณท่าเรือทุกจุดที่สามารถเดินทางออกจากเกาะได้ โดยเฉพาะท่าเรือสปีดโบ๊ต เพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีออกจากเกาะสมุยได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นมือปืนอาชีพระดับพระกาฬ และมีการวางแผนมาล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี โดยคนร้ายเลือกลงมือในช่วงที่มีการจัดขายสินค้าถนนคนเดิน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน สามารถเข้าถึงตัวผู้ตายได้ง่าย และเมื่อก่อเหตุแล้วก็ใช้วิธีหลบหนีแอบแฝงไปในกลุ่มคน
สำหรับผู้ตาย เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ เป็นที่รู้จักกันดี มีธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่หุ้นส่วนจะเป็นชาวต่างชาติ รวมทั้งคอยดูแลช่าวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเกาะสมุย ล่าสุดได้หันมาจับธุรกิจถนนคนเดิน โดยก่อนหน้านี้ได้ไปเปิดขายในที่ของเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนจะปิดตัวลงโดยไม่ทราบสาเหตุ และนิสัยส่วนตัวของผู้ตายก็เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาโผงผางตามสไตล์นักเลง จนอาจทำให้บางคนไม่พอใจ ซึ่งตำรวจรอสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะสรุปสาเหตุการสังหารขาใหญ่เกาะสมุยในครั้งนี้ต่อไป.
* * *
出處:http://www.thairath.co.th/content/485402
訂閱:
文章 (Atom)